จีน ที่หลายคนรู้จัก เป็นยังไง? อะไรก็ดูไม่ค่อยดีไปซะหมดใช่มั้ย ไม่ว่าจะคนจีน ที่โหวกเหวกโวยวาย จนหลายคนไม่ค่อยปลื้ม ห้องน้ำป่วยๆ จนหลายคนขยาด หรืออีกหลายต่อหลายอย่างที่สื่อต่างประโคมข่าวกันออกมา ความคิดเราคงไม่ต่างจากหลายคนมากนัก แต่เชื่อมั้ยว่า พอเราได้ไปสัมผัสจีนครั้งแรกที่ คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า ครั้งนั้นทำให้ความคิดเรากลับตาลปัตรไปหมด ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จีน กลายเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่เราไปแล้ว ยังอยากกลับไปซ้ำอีกรอบ แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง เราได้กลับไปจีนอีกครั้ง Shanghai หรือ เซี่ยงไฮ้ ที่เคยได้ยินชื่อนี้มาตั้งแต่เด็ก “หลองปั้น หลองเหล่า หม่านเหลยโทวโท้ว กงโสยเหว่งปั๊ดเย่า…” เพลงลอยมา อย่าเสียเวลา เราจะพาทุกคนไปเที่ยวในแบบฉบับ A dayscape เที่ยวเซี่ยงไฮ้ 5 วัน Tourist spots VS Hidden spots
เที่ยวเซี่ยงไฮ้ 5 วัน
Tourist spots VS Hidden spots
DAY 0
ตั๋วเครื่องบิน
ทริปนี้เราบินไปกับ Thai AirAsiaX ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมงกว่า เล่นเกมได้รางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เซี่ยงไฮ้ 2 ที่นั่ง ทริปของเราครั้งนี้เลยประหยัดไปได้เยอะ
- ขาไป บินดึกถึงเช้า เวลาดี ถึงแล้วเที่ยวต่อได้เลย 00:15-05:30 น.
- ขากลับ บินเช้า 06:50-10:15 น. เที่ยวบินเวลาแบบนี้ นอนสนามบินดีที่สุด
ที่พัก
การเดินทางครั้งนี้ ได้เที่ยวกัน 5 วันเต็ม จองโรงแรมไว้สองที่
- 24K International Hotel (Fuzhou Road) คืนละ 1,1xx บาท
- Jinguangs Shanghai Nanjing Road หรือ Jinjiang Inn Style (Shanghai Nanjing Road Pedestrian Street Middle Fujian Road) เวลาจองบางเวบอาจใช้ชื่อเดิม บางเวบอาจใช้ชื่อใหม่ ให้ดูดีๆ แต่จริงๆ แล้วคือรร.เดียวกัน เราเดินตาม google maps จนหลงกันมาแล้ว คืนละ 1,6xx บาท
วีซ่า
การขอวีซ่าจีน สบายๆไม่เครียด แค่เตรียมเอกสารไปให้ครบพอ
การเตรียมเอกสาร
- กรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่าสาธารณรัฐประชาชนจีน และทำการนัดหมายออนไลน์ >> https://www.visaforchina.org/BKK_TH/howtogetavisa/quickaccess/index.shtml
- หนังสือเดินทาง (Passport) เล่มจริง และสำเนา 1 ฉบับ ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง และ ต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
- รูปถ่ายสี ฉากหลังขาว ขนาด 48 มม. x 33 มม. ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป (รูปแรก ติดลงบนแบบฟอร์มขอวีซ่าเลย รูปสอง เขียนเลข passport และชื่อภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเขียนนามสกุล ด้านหลังรูป) ดูกฎการใช้รูปถ่ายสำหรับยื่นขอวีซ่าประเทศจีน (เวลาไปถ่ายรูปให้บอกที่ร้านเลยว่า ถ่ายรูปขอวีซ่าจีน ทางร้านจะรู้เลยว่าต้องถ่ายยังไง ขนาดเท่าไหร่) >> https://www.visaforchina.org/BKK_TH/generalinformation/news/283026.shtml
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน
- ใบจองที่พัก
- กรณีเคยได้วีซ่าจีนมาแล้ว ให้ถ่ายสำเนาไปด้วย
ยื่นขอวีซ่า
หลังจากเตรียมเอกสาร และทำการนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการยื่นก็ง่ายมาก
- ไปตามนัด
- ยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านหน้าตรวจความถูกต้องของเอกสารก่อนยื่นจริง
- รับบัตรคิว
- รอเรียก
- ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ (อาจมีถามนิดหน่อย หรือบางทีอาจไม่ถามเลย)
- เจ้าหน้าที่จะให้ใบรับวีซ่ามา ใช้เวลา 4 วันทำการ (นับวันที่เราไปยื่นด้วยเป็น 1 วัน)
- ชำระเงินค่าวีซ่า วันรับวีซ่า กรณีเข้าออก 1 ครั้ง แบบทั่วไป 1,500 บาท แบบอื่นๆ ดูรายละเอียดค่าธรรมเนียมตามนี้ >> http://www.visaforchina.org/BKK_TH/yyxz/278365.shtml
สถานที่ยื่นขอวีซ่า
- 1550 อาคารธนภูมิ ชั้น 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 แฟกซ์ 02-207-5988, 02-207-5933 Call Center 02-207-5888
- วันเปิดทำการ : วันจันทร์ – วันศุกร์ (หยุดวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดราชการ)
- เวลารับยื่นใบคำร้อง : 09:00 น. – 15:00 น. (คำร้องประเภทด่วน และด่วนพิเศษยื่นคำร้องภายในเวลา 11:00 น.)
- เวลาสำหรับจ่ายชำระเงินและรับเอกสารคืน : 09:00 น. – 16:00 น. (คำร้องประเภทด่วนพิเศษสามารถรับเอกสารคืนได้หลังเวลา 15:30 น.)
ซิม
- ใช้ ซิม GO! อินเตอร์ ของ DTAC หรือ Travel SIM ของ TRUE ล่าสุด SIM2Fly ของ AIS ก็ใช้ได้แล้วเหมือนกัน ซิมแบบนี้ราคาไม่แพง แนะนำเลย สะดวกมาก
- อีกวิธีเปิดโรมมิ่งไปก็ได้ แต่แบบนี้ก็จะแพงหน่อย
ที่จีนจะบล็อคการใช้ Google maps, Facebook , Instagram, YouTube, Line แต่ถ้าใช้ซิมที่บอกข้างต้น หรือเปิดโรมมิ่งไป ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา
ประกันเดินทาง
ย้ำกันแทบทุกรีวิว ซื้อทุกครั้ง ซื้อไปเถอะ อย่าไปเสียดาย ครั้งนี้ยังคงใช้ MSIG เหมือนเดิม มีโปรโมชั่นดีๆ อยู่เรื่อย ดูที่นี่ได้เลย >> https://goo.gl/M7nriV
แผนเที่ยว
- DAY1 – Shanghai Urban Planning Exhibition Center – Art West Bund – The Bund – Nanjing Rd.
- DAY2 – Zhujiajiao Ancient Town
- DAY3 – Xintiandi – Tianzifang – Jing’an Temple
- DAY4 – Pudong New Area – Shanghai Tower – South Shannxi Road Station
- DAY 5 – Shanghai Theatre Academy – Shanghai Propaganda Poster Art Centre – Yuyuan Market
DAY 1
เซี่ยงไฮ้ สัมผัสแรก
ถึงสนามบิน Shanghai Pudong International Airport ผ่านตม. รอกระเป๋า ใช้เวลาไม่นาน หาทางเข้าเมืองเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ รร. ก่อน เพราะเช้าอยู่ยัง Check in ไม่ได้ รร.แรกที่เราจองไว้ คือ 24K International Hotel (Fuzhou Road) อยู่สถานี People’s Square
เดินทางเข้าเมือง
การเดินทางเข้าเมืองมีหลายวิธี แต่วิธีที่เราจะมาแนะนำกัน มี 2 วิธีคือ Maglev รถไฟความเร็วสูง และ Metro รถไฟแบบปกติ (ถ้าอยากลองอะไรล้ำๆ ให้นั่ง Maglev ราคาแพงหน่อย แต่ถ้าอยากชิว ไม่รีบ ให้นั่ง Metro แถมราคาถูกอีกด้วย)
Maglev
- ตั๋วรถไฟแบบเที่ยวเดียว ราคา 50 หยวน (แสดงตั๋วเครื่องบินลด 20% เหลือ 40 หยวน) / ตั๋วรถไฟแบบไป-กลับ (7 วัน) ราคา 80 หยวน) >> http://www.smtdc.com/en/jszl.html
- จากสนามบินถึง Longyang Rd. Station (7 นาที)
- Max Speed ในแต่ละรอบไม่เท่ากัน 300 km/h หรือ 430 km/h ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา (ดูได้จากตารางในรูป )
- หลังจากนั้นต่อ Metro Line 2 ไปลง People’s Square Station (20 นาที – 4 หยวน)
Metro
เราเลือกเดินทางเข้าเมืองด้วยวิธีนี้
- Metro Line 2 Airport – People’s Square (65 นาที – 7 หยวน)
- ซื้อบัตร Metro – Shanghai Public Transportation Card (SPTC) 100 หยวน (มีเงินในบัตร 80 หยวน มัดจำ 20 หยวน)
- ดูแผนที่รถไฟและราคา >> http://service.shmetro.com/en/
- หรือใช้ App >> Explore Shanghai Metro map ก็สะดวกมาก
24K International Hotel (Fuzhou Road)
ที่พักที่แรกของเรา เป็นรร. ราคาประหยัด สภาพไม่ดีมาก แต่ก็นอนได้สบาย แถวรร. มีร้านอาหารเยอะ หาของกินง่าย พอมาถึง ก็ฝากกระเป๋าไว้ก่อน แล้วออกไปหาอะไรกินแถวๆนั้น กลับมา Check in แล้วของีบแป๊บนึงก่อน ตาจะปิด
- People’s Square Station Exit 15
- จองผ่าน Traveloka คืนละ 1,1xx บาท
- มีค่า Deposit 100 หยวน (คืนให้ตอน Check out)
Shanghai Urban Planning Exhibition Center
[Tourist spot]
สัมผัสแรก…ที่เซี่ยงไฮ้ ตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่งรถ Shanghai City Sightseeing Bus นั่งกินลมชมเมืองไปเรื่อยๆ ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ มีเยอะมาก อยากนั่งรถดูให้รอบๆก่อน จะได้รู้ว่ามีอะไร ตรงไหนน่าสนใจ นอกเหนือจากที่เราหาข้อมูลมาบ้าง แต่ก้าวแรกที่มาถึง เราก็ถูกต้อนรับด้วยความชุ่มฉ่ำ ของเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย เลยต้องเปลี่ยนแผนมาที่นี่แทน Shanghai Urban Planning Exhibition Center ย้อนดูประวัติศาสตร์ การวางแผนและการพัฒนาเมืองเซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และการก้าวไปสู่อนาคตที่สุดล้ำ ใครที่ชอบดู Exhibition แนะนำให้มา
- People’s Square Station Exit 2
- เวลาเปิด-ปิด 09:00-17:00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ปิดขายตั๋วเวลา 16:00 น.)
- ค่าเข้า 30 หยวน
Art West Bund
[Hidden spot]
เมื่อยามที่อยากเสพงานศิลป์ แล้วพลาด!!! รู้สึกอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว เคว้งคว้าง ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำซ้ำเติม 555
เที่ยวเซี่ยงไฮ้ แบบ hidden กันต่อ hidden มากแบบมี story ซะด้วย เรื่องของเรื่องคือ ด้วยความที่เราชอบไปสถานที่ที่คน local นิยมไปกัน เราก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนเจอรูปใน flickr แล้วดูน่าสนใจดี เราเลยส่งข้อความไปถามเค้าว่า รูปนั้นถ่ายที่ไหน เค้าตอบกลับมาว่าเป็นรูปในงาน Exhibition หนึ่งที่จบไปแล้ว ถ้าชอบแนวนี้แนะนำให้ไปที่ Art West Bund แล้วเราก็เชื่อคนง่าย ไม่ดูให้ดีๆ ว่าเค้ามีนิทรรศการเป็นช่วงๆ แล้วช่วงที่เราไปก็แจ๊คพ็อต เคว้งคว้างว่างเปล่า ไม่มีจัดนิทรรศการสักงาน เราเลยต้องลุยฝนไปหาที่เที่ยวใหม่ก็ได้ ถ้าใครไม่อยากมี story แบบนี้ อย่าลืมเข้าไปเช็คที่นี่ก่อนว่าเค้ามีจัดนิทรรศการช่วงไหนบ้าง >> westbundshanghai.com
- Yunjin Rd. Station Exit 6
The Bund
[Tourist spot]
ก่อนหมดวัน เราขอไปสัมผัสกลิ่นอายยุโรปยามค่ำคืนที่ The Bund สถานที่ยอดฮิตที่บอกเลยว่า “ห้ามพลาด” ด้วยประการทั้งปวง เพราะถ้าไม่มาเยือนก็เหมือนมาไม่ถึง เซี่ยงไฮ้ เราสองคนยืนอยู่ทางเดินริมแม่น้ำ Huangpu ที่สามารถชมความงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ Colonial, Art Deco ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาวตะวันตก ที่มาตั้งถิ่นฐานนานนับร้อยปีได้อย่างชัดเจน หากมองไปอีกฟากฝั่งของแม่น้ำ เราก็จะได้เห็นความ Contrast ที่เป็นตึกระฟ้า ล้ำและทันสมัย รวมถึงแสงสีที่ตระการตาของฝั่ง Pudong อีกด้วย ถึงแม้ว่าหมอกจะหนา และฝนที่ตกลงมาโปรยปราย ก็ไม่สามารถบดบังความงามที่อยู่ตรงหน้าเราได้เลย
- East Nanjing Rd. Station Exit 2
Peace Hotel
[Hidden spot]
หลังจากที่ได้เดินชมสถาปัตยกรรมและแสงสียามค่ำคืนกันไปแล้ว เราเดินจาก The Bund มาต่อที่ถนนสายช้อปปิ้งอย่าง Nanjing Road กันบ้าง แต่ระหว่างทางก่อนจะไปช้อป ขอแวะเข้า Peace Hotel สักแป๊บ เพราะโรงแรมนี้มีประวัติมายาวนานเกือบร้อยปี ตกแต่งในสไตล์ Art Deco เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง ด้านในมีแกลลอรี่ โปสเตอร์ของภาพยนตร์ที่เคยมาถ่ายที่เซี่ยงไฮ้ด้วย น่าเสียดายส่วนของแกลลอรี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป (แต่เราสามารถกดมาได้สองรูป ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินมาบอกว่าห้ามถ่าย)
Nanjing Road
[Tourist spot]
ออกจาก Peace Hotel ถึงเวลาช้อปปิ้งกันจริงๆแล้ว Nanjing Road เป็น Shopping Street ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และทุกสิ่งอย่างของการช้อปปิ้ง นอกจากถนนสายหลักแล้ว ยังมีซอยแยกออกไปได้อีกหลายซอย ซอยพวกนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร local ที่ราคาถูกกว่าถนนสายหลัก ยกตัวอย่างง่ายๆ ปกติซื้อน้ำราคา 2 หยวน แต่ถ้าซื้อที่ Nanjing Road นี้ ราคาจะเพิ่มขึ้นทันทีเป็น 4 หยวน เท่าที่สังเกตถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ไม่ค่อยมีคน local เท่าไหร่ ถ้าอยากสัมผัสวิถีนักช้อปของชาวเซี่ยงไฮ้ เดี๋ยวเราจะพาไป แต่ตอนนี้ดูบรรยากาศที่นี่กันไปก่อน
DAY 2
เมืองโบราณ วันฝนโปรย
ช่วงหาข้อมูลหนักมากก่อนเดินทางมาที่นี่ เรารู้มาว่า เซี่ยงไฮ้ นอกจากความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม และความก้าวล้ำนำสมัยแล้ว ยังมีสถานที่อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย คือการไปสัมผัสเมืองน้ำโบราณ Ancient Town ซึ่งสามารถเดินทางจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ไม่ไกลนัก Ancient Town ที่เราไปเที่ยวได้มีอยู่หลายแห่ง ขึ้นอยู่กับเวลาของแต่ละคน ว่ามีมากน้อยแค่ไหน และอยากไปเมืองเก่าในรูปแบบใด เมืองขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก คนน้อยไม่พลุกพล่าน หรือจะเลือกแบบคนมากคึกคักหน่อยก็ย่อมได้ นี่คือข้อมูลที่เราใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งเราหามาจาก www.chinahighlights.com
Zhujiajiao Ancient Town
[Tourist Spot]
เราตัดสินใจเลือกที่นี่ ด้วยเหตุผลหลักๆเลย คือเรื่องของเวลา เรามีเวลาไม่มากนัก จึงไม่อยากเสียเวลาเดินทางนาน Zhujiajiao Ancient Town อยู่ห่างจากตัวเมือง เซี่ยงไฮ้ ไม่ไกลมาก วิธีการเดินทางมี 2 วิธีคือ รถบัส และ Metro
- รถบัส ขึ้นรถบัสสาย Huzha Express Line (沪朱高速快线) จุดขึ้นรถอยู่ที่ถนน Pu’An Road (ป้ายรถบัสอยู่ฝั่งตรงข้าม Shanghai Concert Hall) รถออกทุกครึ่งชม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. คนละ 12 หยวน (ใช้ Metro Card ได้) ลงสุดสายแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
- Metro Zhujiajiao Station เดินต่ออีกประมาณ 15 นาที (ถ้าขึ้นจากสถานี People’s Square ใช้เวลาประมาณ 75 นาที ยังไม่รวมเดินต่อ)
- ข้อมูลเพิ่มเติมของ Zhujiajiao Ancient Water Town ดูได้ที่นี่ >> www.travelchinaguide.com
เราเดินทางด้วยวิธีนี้ ขึ้นรถบัสสีชมพู นั่งชมวิวยาวๆไปประมาณ 1 ชม. พอลงจากรถก็เดินไปเรื่อยๆ เดินจนรู้สึกว่าไกลเกินไปแล้ว ไม่เห็นเจอทางเข้าสักที ถามคนแถวนั้นจนได้ความว่า “เดินเลย” ต้องย้อนกลับไปใหม่ แต่การเดินเลยนั้นกลับทำให้เราได้เห็นอีกมุมที่สวยดีเหมือนกันแฮะ มุมที่ดูเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน
เดินย้อนกลับมา ในที่สุดก็เจอทางเข้าเมืองน้ำโบราณ Zhujiajiao จนได้ เดินจากทางเข้าไปไม่ไกล จะพบกับ Tourist Information and Service Center สำหรับใครที่ต้องการซื้อ Tickets เพื่อเข้าชมสถานที่ต่างๆ หรือนั่งเรือเล่นชมเมืองโบราณ ซื้อที่นี่ได้เลย แต่ถ้าใครอยากเดินชมเมืองอย่างเดียว ไม่เสียตังค์สักหยวนก็ทำได้ ไม่ต้องเสียค่าเข้าเมือง เราสองคนไม่ได้ซื้อ Tickets ขอแค่เดินดูบรรยากาศอย่างเดียวดีกว่า เพราะฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ เดี๋ยวตกเดี๋ยวหยุด สลับกันไปแบบนี้ทั้งวัน
Tickets มี 3 แบบ
- ราคา 80 หยวน เข้าชมสถานที่ต่างๆได้ 8 แห่ง รวมนั่งเรือชมหมู่บ้าน
- ราคา 60 หยวน เข้าชมสถานที่ต่างๆได้ 8 แห่ง ไม่รวมนั่งเรือชมหมู่บ้าน
- ราคา 30 หยวน เข้าชมสถานที่ต่างๆได้ 4 แห่ง ไม่รวมนั่งเรือชมหมู่บ้าน
เนื่องจาก Zhujiajiao Ancient Town อยู่ไม่ไกลจากเซี่ยงไฮ้มากนัก จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ทำให้มีร้านแนวใหม่เข้ามาให้บริการเป็นจำนวนมากตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ร้านเสื้อผ้า คาเฟ่ สตาร์บัคก็ยังมี แต่ด้วยความที่เป็นเมืองโบราณ บ้านเรือน และร้านค้าสไตล์ดั้งเดิมก็ยังคงอยู่ ถือเป็นการผสมผสานให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เท่าที่หาข้อมูลมาบอกว่าที่นี่คนจะเยอะมาก แต่วันนี้ด้วยความที่ฝนตกคนเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เที่ยวเซี่ยงไฮ้ แบบฝนๆ ก็ดีเหมือนกันนะ ไปที่ไหนคนก็ไม่ค่อยพลุกพล่าน 555
เราให้เวลากับที่นี่ทั้งวัน เดินเล่นชมเมือง เดินเมื่อยก็เข้าไปนั่งพักคาเฟ่ ฝนตกก็หาที่หลบฝน ฝนหยุดก็ออกมาเดินเล่นใหม่ ไม่ได้เร่งรีบอะไร สุดท้ายนั่งรถกลับด้วยวิธีเดิมมาถึง เซี่ยงไฮ้ ก็มืดพอดี มีเวลาเหลือไปเดินเล่น The Bund อีกรอบแต่คราวนี้ขอนั่งเรือข้ามฟาก ไปดูวิวอีกฝั่งก็ชิวดี ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ยังมีอีกเยอะไปดูกันต่อเลยดีกว่าว่าเราจะพาไปที่ไหนอีกบ้าง
DAY 3
Tourist spots all day
Jinguangs Shanghai Nanjing Road
โปรแกรมแรกของวันนี้คือการเปลี่ยนโรงแรม ก่อนจะออกไปตะลอนที่อื่นกันต่อ ที่ต้องเปลี่ยนเพราะว่าเรามีรหัสส่วนลดของ Traveloka ถ้าใช้จองที่พัก 2 ที่ จะคุ้มกว่า ฝนตกแต่เช้าได้เดินลากกระเป๋าเปลี่ยนโรงแรมกลางสายฝนกันเลยทีเดียว
Jinguangs Shanghai Nanjing Road หรือ Jinjiang Inn Style (Shanghai Nanjing Road Pedestrian Street Middle Fujian Road) เวลาจองบางเวบอาจใช้ชื่อเดิม บางเวบอาจใช้ชื่อใหม่ ให้ดูดีๆ แต่จริงๆ แล้วคือรร.เดียวกัน เราเดินตาม google maps จนหลงกันมาแล้ว
- East Nanjing Rd. Station
- จองผ่าน Traveloka คืนละ 1,6xx บาท
- มีค่า Deposit 100 หยวน (คืนให้ตอน Check out)
เล่ามาซะยาวแต่เอาเป็นว่าไม่แนะนำที่นี่แล้วกัน ห้องดีนะแต่เดี๋ยวเดินหลงเสียเวลาเที่ยว เพราะที่ตั้งใน maps ไม่ค่อยจะตรงดูแล้วอาจจะงงนิดหน่อย
หลังจากเดินหลงลากกระเป๋ากลางสายฝนเปลี่ยนโรงแรมเรียบร้อย ดีที่กระเป๋าเดินทางไม่ใช่แบบผ้า ไม่อย่างนั้นข้างในนี่เปียกแน่ เข้าห้องเปิดกระเป๋า ดีนะที่แค่ชื้น รื้อทุกอย่างออกมาผึ่งไว้คาดหวังว่ากลับมาแล้วคงจะแห้งพอดี 555 เที่ยงแล้วออกไปหาอะไรกิน เดินเล่น เที่ยวเซี่ยงไฮ้ กันต่อดีกว่า
Xintiandi
[Tourist spot]
Xintiandi เป็นสถานที่ที่ใส่ไว้ในโปรแกรมแล้วบอกกับตัวเองไว้เลยว่า “ห้ามตัด” ออกเป็นอันขาด ทั้งรูปทรงอาคาร และแนวของต้นเมเปิ้ล ช่างเชิญชวนให้มาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ อาคาร บ้านเรือนในย่านนี้เป็นสไตล์ Shikumen (ชิคูเมน หมายถึง ประตูหิน) ซึ่งก่อสร้างในช่วงกลางศตวรรษที่ 1800 แต่ตอนนี้ได้รับการบูรณะใหม่ทำให้ทันสมัยมากขึ้น เป็นแหล่งรวมของร้านค้า ร้านอาหาร แกลลอรี่ พิพิธภัณฑ์ มาเดินในย่านนี้เหมือนไม่ได้เดินอยู่ประเทศจีนเลย บรรยากาศมันออกไปทางยุโรปมากกว่า ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งส่วน indoor และ outdoor ถ้ามาช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นๆ นั่งแฮงค์เอ้ากับเพื่อนหรือแฟน ก็จะชิวและฟินมาก
- South Huangpi Rd. Station Exit 2
เราเดินสำรวจย่านนี้อยู่นาน เดินเข้าแกลลอรี่บ้าง พิพิธภัณฑ์บ้าง ฝนตกก็แวะเข้าร้านกาแฟ นั่งดูฝน ดูคน ไปเพลินๆ จนเริ่มเย็น ควรไปที่อื่นกันต่อได้แล้ว
Tianzifang
[Tourist spot]
Tianzifang เป็น Tourist spot อีกที่ที่คนเยอะมาก ตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้า ที่นักช้อปหลายคนน่าจะชื่นชอบ ย่านที่เน้นของ local ไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนม ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ น้ำหอม โปสการ์ด ของฝาก ขนม ของกระจุกกระจิก ร้านอาหาร บาร์เล็กๆ
- Dapuqiao Station Exit 1
Jing’an Temple
[Tourist spot]
คืนวันฝนตกก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ หลังจากเดินเล่นย่าน Tianzifang แล้ว ที่ต่อไปที่เราจะไปคือ Jing’an Temple ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Tianzifang เท่าไหร่นัก วัดนี้มีประวัติยาวนาน คู่บ้านคู่เมือง เซี่ยงไฮ้ มานานหลายร้อยปี เป็นวัดที่ชาวเซี่ยงไฮ้นิยมมาสักการะบูชากันมาก เราไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปในวัด เพราะรู้อยู่แล้วว่าดึกขนาดนี้วัดปิดแล้วแน่ๆ แต่ไปเพราะอยากชมความงามของวัดในยามค่ำคืนจากด้านนอกมากกว่า
- Jing’an Temple Station
- เวลาเปิด-ปิด 07:30-17:00 น.
- ค่าเข้า 50 หยวน
DAY 4
วันแดดออก
[Hidden Way to The Bund]
เที่ยวเซี่ยงไฮ้ วันแดดออก … เป็นวันแรกที่มาเซี่ยงไฮ้แล้วฝนไม่ตก รู้สึกบรรยากาศดีที่สุดตั้งแต่มา อากาศเย็น มีแดดรำไร ไป The Bund เส้นทางใหม่ที่ยังไม่เคยเดินบ้างดีกว่า เดินเรียบริมน้ำ Wusong River (Suzhou River) จนไปบรรจบที่ Huangpu River ตอนแรกตั้งใจว่า จะไปดูชาวเซี่ยงไฮ้เค้ารำไทเก๊กกัน แต่ตอนเช้ามืดฝนยังตกอยู่ คิดว่าคงไม่มีใครมารำให้ดูแน่ๆ เราเลยออกจากโรงแรมสายหน่อย ถ้าใครอยากเดินเล่นเส้นทางนี้ search หาคำว่า Waibaidu Bridge แล้วเดินสำรวจด้วยตัวเองดู เราจะได้เที่ยวเซี่ยงไฮ้ในมุมที่ต่างจากใน guide book กันบ้าง
เดินกันไปเรื่อยๆ จนถึง The Bund แล้วเราก็ได้เห็นความสวยงามของ The Bund ในยามเช้า หลังจากที่ได้สัมผัสแสงสียามค่ำคืนกันไปแล้ว ก่อนที่เราจะข้ามไปฝั่ง Pudong New Area กันในวันนี้ ขอเก็บบรรยากาศที่นี่แป๊บ
Pudong New Area
[Tourist spot]
พื้นที่ว่างเปล่า ท้องนา และโรงงานขนาดเล็กในวันนั้น กลายมาเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ ที่ที่เรากำลังพูดถึง คือ เขต Pudong ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ The Bund ที่เราเดินสำรวจกันไปแล้ว เรามาเปิดประวัติอันน่าทึ่งของ Pudong สักนิด เพราะแนวคิดของเค้าไม่ธรรมดาจริงๆ สามารถเนรมิตให้เป็นเมืองใหม่โดยใช้เวลาพัฒนาเพียงไม่กี่สิบปี
หลังปี ค.ศ. 1978 เซี่ยงไฮ้ ได้รับนโยบายจากรัฐบาลกลาง มุ่งผลักดันเซี่ยงไฮ้ ให้กลายเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ของโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเงินและการค้า แนวคิดและวิธีการสร้างเมืองใหม่ของเซี่ยงไฮ้คือ จะไม่เข้าไปยุ่งกับเมืองเก่า ไม่พยายามขยายเมืองเก่า แต่เล็งพัฒนาพื้นที่ใหม่เท่านั้น เนื่องจากเมืองเก่า ผังเมืองก็เก่า หาพื้นที่ใหม่และวางผังเมืองใหม่ เป็นวิธีการที่ดีที่สุด เซี่ยงไฮ้เอาจริงเอาจังกับการวางผังเมืองใหม่มาก ถึงขั้นจัดประกวด การออกแบบเมืองใหม่ ในปีค.ศ. 1992 ซึ่งได้เชิญสถาปนิก นักออกแบบที่มีชื่อเสียงจากหลายประเทศมาร่วมประกวดในครั้งนี้ด้วย ทำให้พื้นที่ฝั่งนี้เต็มไปด้วยตึกสูงหน้าตาสุดล้ำหลายตึก จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ก็ว่าได้ อย่างเช่น Oriental Pearl Tower, World Financial Central Tower, Jinmao Tower และ Shanghai Tower ที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และนี่คือ “Pudong New Area”
- Lujiazui Station
Pudong New Area มีที่น่าสนใจให้เราไปสำรวจกันเยอะมาก ถ้าใครมีเวลามากหน่อยลองเข้าไปดูสถานที่ต่างๆ ในย่านนี้เพิ่มเติมจากที่นี่ได้เลย >> http://english.pudong.gov.cn/
Shanghai Tower
[Tourist spot]
หลังจากเดินเงยหน้ามองตึกสูงย่านนี้จนเมื่อยคอ จะถ่ายรูปทีก็เก็บไม่ค่อยหมด เพราะทุกอย่างดูสูงและใหญ่โตอลังการ เราเลยขอเอาตัวเองไปอยู่บนที่สูงแทนแล้วกัน จะได้ไม่ต้องหายาทาแก้คอเคล็ด! ย่านนี้เราสามารถขึ้นไปชมเมืองเซี่ยงไฮ้แบบพาโนรามาได้จากหลายอาคาร แต่อาคารที่เราจะไปกันนั้น เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเอเชีย และเป็นอันดับ 2 ของโลกอย่าง Shanghai Tower เชื่อมั้ยว่า เราสามารถขึ้นลิฟท์ไปชมวิวบนชั้น 118 ได้ โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที โอ้ว! แม่เจ้าหูอื้อกันเลยทีเดียว
- Lujiazui Station Exit 6 หรือ Dongchang Road Station Exit 4
- เวลาเปิด-ปิด 08:30-22:30 น. (ปิดขายตั๋วเวลา 21:30 น.)
- ค่าเข้า 180 หยวน
South Shannxi Road Station
[Hidden spot]
จำชื่อสถานีนี้ไว้ให้ดีๆ South Shannxi Road Station เพราะที่นี่คือย่านช้อปปิ้งและแฮงค์เอ้าของคน local เราสามารถเดินสำรวจกันได้แบบยาวๆ มีถนนหลายสายให้เดินลัดเลาะไปได้เรื่อยๆ และนี่คือบางส่วนที่เราไปเดินสำรวจกันมา Xiangyang Road, Fuxing Road, Yongkang Road, Huahai Road นอกจากนั้นสถานีนี้ยังมีห้างหรูหราอย่าง iapm mall อีกด้วย
Xiangyang Road และ Fuxing Road จะคล้ายๆกัน มีร้านอาหาร local ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นแบบไม่เน้นแบรนด์ เครื่องประดับ คาเฟ่
Yongkang Road ช่วงที่เราไปยังเป็นย่านร้านอาหาร ผับ บาร์ เป็นที่รวมตัวกันของชาวต่างชาติ แต่ตอนนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านเบเกอรี่ คาเฟ่เล็กๆ ให้ได้มานั่งแฮงค์เอ้ากัน
Huahai Road สองข้างทางของถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านแบรนด์เนมชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Uniqlo, Muji Flagship Store, Swatch, Rayban, Under Armour, New Balance และแบรนด์อื่นอีกมาก ต้องลองมาสำรวจด้วยตัวเองดู
DAY 5
ที่ลับก่อนกลับ
ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ยังมีให้เราออกไปสำรวจอีกมากจริงๆ แต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่เซี่ยงไฮ้กันแล้ว เราไม่อัดโปรแกรมจนแน่น แต่จะเดินซอกแซกไปตามสไตล์ A dayscape จนในที่สุดเราก็ได้เจอ ที่ลับ
เริ่มจากโรงแรมเดินผ่านถนน Nanjing ได้เห็นคนที่นี่มารำไทเก๊กกันสมใจอยาก ถึงแม้ว่าจะเป็นคนละที่กับที่ตั้งใจไว้ก็ตาม เรายืนยิ้ม หยุดดูสักพัก แล้วเราก็ไปต่อ
Shanghai Theatre Academy
[Hidden spot]
นั่ง Metro มาลงที่ Jing’an Temple Station ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาวัด แต่พอถึงหน้าวัดแล้วเกิดเปลี่ยนใจ อยากไป Shanghai Propaganda Poster Art Centre มากกว่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดเท่าไหร่ เดินได้ประมาณ 1.5 กม. เราเปิด google map มา แล้ว map ก็พาเราเข้ามาที่นี่ Shanghai Theatre Academy ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าที่นี่คืออะไร เรียกว่าอะไร แต่แปลกใจที่เห็นวัยรุ่นหนุ่มสาวหน้าตาดี (ย้ำ!ว่า ส่วนใหญ่หน้าตาดีจริงๆ) เดินเข้าออกที่นี่ตลอด ถือหนังสือเหมือนมาเรียน พอเดินเข้าไปข้างใน ก็เห็นมีทีมงานตั้งกล้องเหมือนมาออกกองเล็กๆ สังเกตอยู่สักพัก เลยคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นโรงเรียนการแสดง และยังเป็นแหล่งรวมศิลปะหลายแขนงอีกด้วยทั้ง Music, Dance และ Drama ลองหาข้อมูลดูในเวบบางช่วงอาจมีจัดกิจกรรม และนิทรรศการ เอาเป็นว่าแค่นั่งดูนักเรียนที่นี่เดินไปเดินมาก็เพลินแล้ว จังหวะดีอาจได้เสพศิลป์จากนิทรรศการต่างๆ อีกด้วย
- Jing’an Temple Station
- http://en.sta.edu.cn
- http://www.rawland.cn/EN/Index
นั่งดูวัยรุ่นที่นี่สักพัก ออกมาด้านนอกบรรยากาศร่มรื่นสบายตา มีต้นเมเปิ้ลเป็นแนวยาวตลอดสองข้างทาง เราว่าสิ่งที่สวยงามของ เซี่ยงไฮ้ นอกจากสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแล้ว แนวของต้นเมเปิ้ลนี่แหละที่เพิ่มความสวยให้กับเมืองเซี่ยงไฮ้มากขึ้นไปอีก ต้นเมเปิ้ลมีเยอะมากเกือบทุกถนน สวยและร่มรื่นมากจริงๆ
อีกอย่างที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ มอเตอร์ไซค์ ที่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดา แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และยังช่วยลดมลพิษอีกด้วย แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า! เวลาข้ามถนนให้มองซ้ายมองขวาดีๆ เพราะเวลาพี่เค้าขี่มอเตอร์ไซค์มา จะมากันแบบเงียบๆ ไม่ให้เรารู้ตัวเลยทีเดียว 555
Shanghai Propaganda Poster Art Centre
[Hidden spot]
หลังจากเดินสักพักเราก็มาถึง Shanghai Propaganda Poster Art Centre ทางเข้าก็จะงงๆหน่อยเพราะอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งแถมอยู่ชั้นใต้ดินอีกต่างหาก เรียกว่า Hidden spot จริงๆ พอได้เข้าไป ว้าว!! นี่มันคือขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์แท้ๆ เป็นรูปวาดสีแนวปลุกใจ ชวนเชื่อ ชาตินิยม ต่อต้านชาติตะวันตก และแฝงด้วยอารมณ์ขัน ในยุคของ “ประธานเหมาเจ๋อตุง” เรืองอำนาจ จากศิลปินท้องถิ่น สำนักพิมพ์ และสินค้าหลากหลายชนิด ลายเส้นและการลงสีเป็นที่นิยมในยุคนั้น หาชมได้ยากมาก-ยากที่สุดเพราะเท่าที่เราทราบจะมีที่นี่เท่านั้นที่รวบรวมผลงานไว้เป็นร้อยๆชิ้นและไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างใน ทำให้ไม่น่าจะมีผลงานเผยแพร่มากนัก สำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์และงานศิลป์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เราขอให้เรต AAAAA เลยสำหรับที่นี่
- Changshu Road Station
- เวลาเปิด-ปิด 10:00-17:00 น.
- ค่าเข้า 25 หยวน
- http://www.shanghaipropagandaart.com
Yuyuan Market
[Tourist spot]
ความตั้งใจตอนแรกคือ การเข้าไปชม Yuyuan Garden ซึ่งเป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวที่มาเซี่ยงไฮ้ ด้วยความที่มันเป็น Tourist spot และเรามาถึงบ่ายๆเย็นๆ ทำให้เราเจอคลื่นของนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ทั้งจีนเอย ฝรั่งเอย ทุกชาติทุกภาษาไหลกันมาที่นี่ เมื่อเจอแบบนี้ก็เกิดอาการท้อที่จะไปต่อ 555 เลยสำรวจตลาดด้านหน้าอย่างเดียว ดูของไปเรื่อยเปื่อย มีของฝากแบบตลาดนักท่องเที่ยวทั่วไป เราเลยมองหาอะไรแปลกๆแบบที่บ้านเราไม่มี และแล้วเราก็พบพี่น้องของผู้พันแซนเดอร์ที่มาทำมาหากินที่เมืองจีนด้วยการขายฟาสต์ฟู๊ดเหมือนกัน ก็เรียกเสียงหัวเราะจากเราได้ไม่น้อย
- Yuyuan Garden Station
จบจากที่นี่ เราไปเดินเล่น จิบกาแฟที่คาเฟ่ย่าน Huahai Road แล้วไปนอนสนามบินเพื่อรอเวลาเช็คอิน ตอนตี 4!!
เซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองที่ทำให้เราลบภาพจีนโบราณไปได้อย่างสิ้นเชิง และเป็นการเปิดประตูสู่อนาคตอย่างแท้จริง ทุกอย่างที่นี่ดูดี ดูล้ำไปหมด ทั้งคน ทั้งตึก และการพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นหนึ่งในมหานครของโลก ไม่ต่างจากนิวยอร์ค โตเกียว โซล และด้วยสไตล์จีนที่คิดใหญ่ทำใหญ่อาจทำให้แซงหน้าเมืองอื่นๆได้ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เรารอวันที่จะกลับไปดูความยิ่งใหญ่ของเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง I love Shanghai
ติดตามพวกเรา A dayscape เพิ่มเติมได้ที่
- Website : https://www.adayscape.com
- Facbook : https://www.facebook.com/adayscape/
- Instagram : https://www.instagram.com/adayscape/
- YouTube : https://www.youtube.com/channel/UC6UHLqhwU7gPfyOkoQ6kwog