ตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ เกาหลี [ต่อ]

เกาหลี ตั้งแต่ตอนที่ 1-3 เราไปเที่ยวกันมาหลายที่มากๆ เก็บบรรยากาศ Korea Autumn ตั้งแต่ออกนอกเมืองไป Sokcho ไปไหว้พระใหญ่ ขึ้นเขาที่ Seoraksan จนกลับเข้า Seoul ตะลอนกันไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบไม่ร้อน เรื่องราวการเดินทางของเราในเกาหลี ครั้งนี้ เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว ไปติดตามกันต่อดีกว่าว่า สโร กับ อาร์ต จะไปที่ไหนกันบ้าง รับรองว่าตอนนี้เป็นอีกตอนที่จะได้เห็น ใบไม้เปลี่ยนสี กันแบบเต็มๆ อีกแน่นอน

ก่อนไปฝาก 3 ตอนแรกกันก่อน เผื่อใครยังไม่ได้เข้าไปดู คลิ๊กตาม link ได้เลย

>>> Korea Autumn ตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ เกาหลี EP1

>>> Korea Autumn ตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ เกาหลี EP2

>>> Korea Autumn ตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ เกาหลี EP3


เกาหลี 01

DAY 6 เกาะนามิ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

Nami Island – Garosu gil

Nami Island

วันนี้เราจะออกไปสัมผัส ใบไม้เปลี่ยนสี แบบเต็มๆ ตากันอีกรอบ เราจะไป เกาะนามิ กัน ความตั้งใจแรก ว่าจะไปด้วยรถไฟความเร็วสูง ITX (Intercity Train Express) เร็วดี..งั้นไปกันเลย Let’s go

เดินทางจากรร. ไปสถานี Cheongyangni เพื่อจะไปซื้อตั๋ว ปรากฎว่าพอไปถึง ไปที่ตู้ซื้อตั๋ว…ตั๋วดันเต็ม!!! เวลาใกล้ๆ เต็มหมด เหลือแต่รอบที่ต้องรออีกอย่างน้อย 2-3 ชม. รถฟงรถไฟความเร็วสูง ถ้าขืนต้องรออีก 2-3 ชม. มันก็ไม่เร็วแล้วน่ะสิ งั้นพี่ขอไม่รอละกัน เปลี่ยนไปวิธีอื่นก็ได้

  • วิธีการเดินทางจาก Cheongyangni – Nami Island
  • Line J Cheongyangni ไปลงที่ Sangbong เปลี่ยนสายเป็น Line G ลงสถานี Gapyeong
  • นั่ง Taxi ต่อไป Nami Island
  • https://namisum.com/en/

ขอเล่าเรื่อง Taxi ที่จะนั่งต่อไปเกาะนามิหน่อย คือพอนั่งไปได้แป๊บนึง ลุงคนขับ Taxi ก็ชี้ไปตรงที่รถติดๆ แล้วเราก็สังเกตเห็นป้ายว่าทางไป เกาะนามิ คือตรงที่ลุงชี้ไปนั่นแหละ แล้วลุงก็พูดอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่เข้าใจ แต่ประเด็นคือ ลุงไม่ได้เลี้ยวไปทางนั้นงัย ไปอีกทางนึงเลยเดาว่าคงบอกว่าทางนั้นอ่ะรถติด ไปอีกทางดีกว่า โอเค เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่าไม่ได้อยู่ละคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ…นั่งต่อไปเรื่อยๆ ก็คิดว่า ก็โอเคนะ ลุงพามาชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสี บนเขาสวยเชียว สักพักก็ถึง โดนค่าเสียหายไป 6,300 วอน คิดในใจ ลุงนี่พาอ้อมแน่ๆ หาข้อมูลมาค่า taxi มันไม่น่าจะแพงขนาดนี้นะ ลงจาก Taxi ก็เดินไปซื้อตั๋วนั่งเรือข้ามเกาะกัน ราคานักท่องเที่ยวอยู่ที่คนละ 8,000 วอน ไปถึงประมาณ 11 โมง คนก็เยอะอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้แน่นมาก


Nami Island 01 Nami Island 02 Nami Island 03Nami Island 04 Nami Island 05

มาถึงได้ไม่นานหิวข้าว เดี๋ยวขอกินข้าวก่อน แล้วค่อยเดินเล่น จะได้ถ่ายรูปกันยาวๆ แต่ตอนนี้ไม่รู้จะกินอะไรดี เดินไปเดินมาเลือกเข้าร้านนี้แล้วกัน… คนเยอะต้องรอคิว ต้องเดินเข้าไปจดชื่อให้เค้าเรียกคิวเราอีกที แต่ให้ตายเหอะ!! นี่เราเป็นต่างชาติคนเดียวเหรอเนี่ย ชื่อก่อนหน้าเราเกือบ 10 ชื่อ เป็นเกาหลีล้วน งั้นต้องอร่อยแน่ๆ เราหวังว่างั้นนะ

Nami Island 06

เราเขียนชื่อ Art และหวังว่าเค้าจะเรียกเราถูก นั่งรอสักพัก อาจุมม่า เรียกชื่อแล้วมองหน้ามาทางเรา “อาร์ตซึ” “อาร์ตซึ” นี่คือถึงคิวเราแล้วใช่มั้ย โอเคๆ  “ไอ แอม อาร์ตซึ”

ไม่รู้อะไรอร่อย งั้นสั่งเนื้อมากินละกัน หน้าตาแบบนี้ ขอบอก อร่อยมากกกกกกก


Nami Island 07 Nami Island 08

หลังจากกินกันอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาไปเดินเล่น รอบ เกาะนามิ กันแล้ว ลุย!!!

Nami Island 09 Nami Island 10 Nami Island 11 Nami Island 12 Nami Island 13 Nami Island 14 Nami Island 15

หลังจากที่เราไปตรงจุดไฮไลท์ที่คนชอบไปกันแล้ว เราเดินไปที่อื่นกัน ต้องบอกว่าตรงจุดอื่น มีมุมสวยๆ อีกเพียบ เดินไปเจอใบไม้หลายแบบมาก ทั้งที่กำลังจะเปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนแล้วแต่ยังไม่เต็มที่ หรือเปลี่ยนแล้วกำลังไล่สีกันสวยเลย หรือเปลี่ยนแล้วแบบพีคๆ ก็มีหลายต้น สรุปได้ว่า ถ้าไป เกาะนามิ แนะนำให้เดินไปรอบๆ เถอะ ยังมีหลายมุมที่สวยงามจริงๆ

Nami Island 16 Nami Island 17 Nami Island 18 Nami Island 19 Nami Island 20 Nami Island 21 Nami Island 22

ระหว่างที่เรากำลังตั้งกล้องถ่ายรูปกัน อยู่ๆ ก็มีสาวเกาหลี เดินเข้ามาคุยด้วย แล้วยื่นรูปจากกล้องโพลารอยด์มาให้ดู แล้วบอกว่าเค้าถ่ายรูปวิวตรงนี้ แล้วมีเราสองคนนั่งอยู่ในรูปพอดี เลยเอารูปมาให้…นั่นน่ะ เห็นเรามั้ย ตัวเล็กๆ ที่นั่งกันอยู่สองคนน่ะ

Nami Island 23

น่าประทับใจสาวเกาหลีสองคนนี้จริงๆ งั้นเราตอบแทนด้วยการถ่ายรูปคู่จากกล้องโพลารอยด์ให้แล้วกัน เพราะมากันแค่สองคน คงไม่ค่อยมีรูปคู่กันสินะ มาๆ เราจัดให้ เอาไปเลยคนละใบ… หลังจากถ่ายโพลารอยด์ให้แล้ว เราก็ขอเค้าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย แชะ!

Nami Island 24

เดินเล่นอยู่นาน เดินลัดเลาะเตรียมตัวกลับ เจอมุมนี้ ถึงกับต้องร้องโอ้โห!!! เลย คือมันกำลังพีคมาก แดงมาก สวยมาก ดูสิ

Nami Island 25 Nami Island 26 Nami Island 28 Nami Island 29

อยู่กันที่นี่จนเย็น เป็นเวลาที่คนกำลังทยอยกลับ คนเยอะมาก ล้านแปด แต่ก็รอคิวไม่นานนะ อากาศเย็นๆ รอแป๊บๆ โอเคอยู่

Nami Island 30

พอข้ามเรือกลับมาแล้ว เตรียมจะเดินไปรอ Taxi ฝนก็ดันตกลงมาเปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เฮ้ย! เริ่มถี่แฮะ เอางัยล่ะทีนี้ คนรอ Taxi ก็เยอะ ไม่มีที่ให้หลบฝนด้วย มองไปมองมาเจอเซเว่น ต้องมีร่มแน่ๆ งั้นวิ่งไปซื้อร่มก่อน ค่อยว่ากัน ซื้อเสร็จ จ่ายตังค์ กางร่ม มองไปตรง taxi คนก็ยังรอกันเยอะอยู่ กำลังจะไปรอ มองเห็นรถเมล์ เห็นคนขึ้นหลายคน คิดว่าต้องไปสถานีรถไฟ Gapyeong แน่ๆ ไปคันนี้แหละ ไม่รอแล้ว ก่อนขึ้นรถถามคนขับซะหน่อย กา-พะ-ย๊อง! (เสียงสูง) ลุงคนขับพูดไรกลับมาไม่รู้ฟังไม่ทัน เราก็อีกทีละกัน กา-พะ-ย๊อง! ยังเสียงสูงอยู่ ลุงแกมึนใส่  เอาอีกที คราวนี้เปลี่ยนเสียงต่ำลงหน่อยละกัน กา-พยอง แถมควบกล้ำให้สั้นขึ้นด้วยอ่ะ ลุงแกคงคิดว่าขึ้นมาสักทีเหอะ! สายตาเหลือบไปเห็น อาจุมม่า กวักมือให้ขึ้นมา แล้วพยักหน้า ประมาณว่าใช่แล้ว ขึ้นมาเถอะ ได้รับการคอนเฟิร์มจากอาจุมม่าเรียบร้อย  ก็ขึ้นสิ รออะไรอ่ะ go go!!

นั่งไปไม่นานก็มาถึงสถานี Gapyeong จนได้ ตอนขากลับเราเพิ่งจะได้รู้นี่แหละว่า ไอทางที่ลุงคนขับ taxi ตอนขาไปที่บอกว่ารถติดแล้วพาไปอีกทาง จริงๆ แล้วมันใกล้นิดเดียวเองนะลุงงงงงงง! ลุงพาอ้อมทำไม! สรุปเราเลยไม่รู้นะว่าราคา taxi ปกติมันควรจะเท่าไหร่


Garosu gil

หลังกลับจาก เกาะนามิ เราก็หาที่ไปกันต่อ กว่าจะออกจากเกาะก็เย็นแล้ว เราเลยตั้งใจหาที่เดินเล่น นั่งเล่นชิลๆ ดีกว่า มีที่นึงที่เค้าบอกว่าเป็น Shopping Street คนส่วนใหญ่ที่มาเดินที่นี่จะสวยๆ หล่อๆ หน้าตาดีกันทั้งนั้น แถมยังรู้มาอีกว่าถ้าช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี แนวต้นแปะก๊วยที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่อื่นเลย แต่เรื่องแนวต้นแปะก๊วยเนี่ย ตัดไปก่อนได้เลย เพราะเราไปถึงก็มืดแล้วแน่ๆ คงไม่ได้เห็นสีสันเท่าไหร่

  • Sinsa Station Exit 8

ด้วยความที่สะพายกระเป๋ากล้องหนักๆ มาหลายวันแล้ว ตอนนี้เราขอพักร่างหน่อยละกัน เอากระเป๋าฝาก locker หยิบออกมาแต่กล้อง กับร่มที่ซื้อมาจากเกาะนามิ เผื่อฝนตกจะได้ใช้ให้คุ้มกับที่ซื้อมาหน่อย ที่สถานีรถไฟ เราเห็น locker เยอะนะ น่าจะมีแทบทุกสถานีแหละ ใช้ไม่ยากเป็นแบบตั้งรหัส ตอนที่เราเลือก เราเลือกตู้ขนาดใหญ่สุดเลย เพราะมีกระเป๋ากล้องใบใหญ่ 2 ใบ ตู้ใหญ่ 4,000 วอน / 4 ชม.

korea locker 01 korea locker 02 korea locker 03 korea locker 04

เสร็จแล้ว ตัวเบาสิทีนี้ พร้อมละไปเดินเล่น Garosu gil กันเลย… ออกมาจากใต้ดิน เดินไปนิดเดียวก็เจอ Grand Plastic Surgery ใครจะมาทำศัลยกรรม มาที่นี่ได้เลย ใหญ่โต เดินไปเรื่อยๆ มีร้านตลอดสองข้างทาง หลากหลายแบรนด์ให้นักช้อปได้มาเลือกช้อปกัน

Garosu gil 01 Garosu gil 02 Garosu gil 03 Garosu gil 04 Garosu gil 05 Garosu gil 06 Garosu gil 07 Garosu gil 08 Garosu gil 09 Garosu gil 10 Garosu gil 11

หลังจากเดินเล่นสักพัก นั่งเล่นร้านกาแฟดีกว่า ดูคนเดินผ่านไปผ่านมา เพลินดี แล้วก็อย่างที่หลายๆ คนบอกไว้ ว่าย่านนี้มีแต่คนหน้าตาดีๆ สวยๆ หล่อๆ กันทั้งนั้น อันนี้คอนเฟิร์ม ต้องมาลองดูด้วยตาตัวเองแล้วล่ะ

Garosu gil 12

 


DAY 7 ก่อนกลับ

Bukchon Hanok Village – Changdeokgung Palace – Garosu gil

Bukchon Hanok Village

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้เที่ยวในเกาหลีแล้วเหรอเนี่ย ยังไม่อยากกลับเลย จริงๆ ทริปนี้เรายังมีอีกหลายที่ ที่เราแพลนไว้แต่ไม่ได้ไป แต่เราก็ตัดสินใจกันว่า ตอนเช้าเราจะไป Bukchon Hanok Village กับ Changdeokgung Palace พอ แล้วตอนบ่ายเราก็ชิลกันดีกว่า แบบชิลจริงๆ ไปนั่งเล่นที่เดิม แถวย่าน Garosu gil ป่ะ เราไปเริ่มที่แรกของวันนี้กัน

  • Anguk Station Exit 2

Bukchon Hanok Village เป็นหมู่บ้านโบราณ ที่มีแบบบ้านเป็นแบบเกาหลีดั้งเดิม แล้วที่นี่ก็ยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ด้วย ภายในหมู่บ้านมีหลายจุดให้เดินชมกัน แต่เราสองคนไม่ได้เดินตามแผนที่เลย เดินไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเดินตามแผนที่เป็นจุดๆ ไปนั่นแหละ แต่พอดีเจอทัวร์จีนลงพอดี เลยปลีกตัวออกไปทางอื่นดีกว่า

Bukchon Hanok Village 01 Bukchon Hanok Village 02 Bukchon Hanok Village 03 Bukchon Hanok Village 04 Bukchon Hanok Village 05

ถ้าใครชอบดูซีรี่ย์ เกาหลี ต้องคุ้นๆบ้านหลังนี้แน่ๆเราเองก็ไม่ได้ติ่งเลยจริงๆขอแค่ไปนั่งถ่ายรูปหน้าบ้านนี้หน่อยละกัน 5555

Bukchon Hanok Village 06 Bukchon Hanok Village 07 Bukchon Hanok Village 08 Bukchon Hanok Village 09 Bukchon Hanok Village 10 Bukchon Hanok Village 11


Changdeokgung Palace

  • ค่าเข้า 3,000 วอน

จากหมู่บ้าน Bukchon Hanok Village เราจะไปชมความงามของพระราชวังในเกาหลีกันบ้าง เราเลือกไป พระราชวังชางด๊อกกุง เพราะอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้าน สามารถเดินไปได้เลย ที่นี่จะปิดทุกวันจันทร์ สำหรับค่าเข้ามี 2 แบบ คือ เข้าชมบริเวณพระราชวังอย่างเดียว กับ เลือกชม Secret Garden ด้วย สำหรับเรา เลือกแบบดูแต่พระราชวัง ไม่ได้ดูสวนลับ ค่าเข้า 3,000 วอน ถ้าใครจะดูสวนลับด้วยก็จะมีเป็นรอบๆ ลองเข้าไปดูรายละเอียดที่นี่ได้เลย  >>> http://eng.cdg.go.kr/guide/guide_cost_01.htm

 

Changdeokgung Palace 01Changdeokgung Palace 02Changdeokgung Palace 03Changdeokgung Palace 04 Changdeokgung Palace 05 Changdeokgung Palace 06 Changdeokgung Palace 07 Changdeokgung Palace 08Changdeokgung Palace 09Changdeokgung Palace 10


Garosu gil อีกรอบ

จบจากพระราชวัง เราตั้งใจว่าจะไปชิลกันละ แพลนอะไรที่วางไว้ ที่ไหนยังไม่ได้ไป ไม่เป็นไร ไว้ค่อยมาใหม่คราวหน้าถ้ามีโอกาส ตอนนี้เราอยากนั่งชิลๆ กับอากาศเย็นๆ ดูคนเกาหลีเดินไปเดินมา เพลินๆ งั้นเรากลับไปนั่งเล่นที่ Garosu gil ดีกว่า เมื่อวานตอนที่ไปมืดแล้ว วันนี้เราจะไปกันแบบสว่างๆ บ้าง

Garosu gil 13 Garosu gil 14

ตอนที่ไปต้นแปะก๊วยยังไม่เหลืองเต็มที่ ถ้าเหลืองเต็มที่แล้วคงจะสวยน่าดู

เรานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟร้านเดิมเมื่อคืน Coffee Smith อยู่สักพัก แล้วเราก็ไปเดินเล่นเมียงดงกันต่อ หาซื้อของฝากก่อนกลับ คือเมียงดงอยู่ใกล้ รร.มาก เราไปเดินเล่นกันแทบทุกคืน พอเอากระเป๋ากล้องไปเก็บที่ รร. เราก็เดินตัวปลิวกันออกมา กลับมาดูรูปในกล้องถึงได้รู้ว่าเราไม่ได้ถ่ายรูปเมียงดงกันไว้เลย 5555

พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับกันแล้ว เราต้องไปถึงสนามบินกันแต่เช้า ยังไม่อยากกลับ แต่ก็ต้องกลับ เราหวังว่าเราจะได้กลับไปเยือนที่ เกาหลี กันอีกนะ


 

Previous Post
Next Post

One thought on “Korea Autumn ตามหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ เกาหลี EP4

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.